แหล่งการเรียนรู้ที่ 1 ระบบเลขฐานและตรรกศาสตร์

ระบบเลขฐาน

เลขฐาน หมายถึงกลุ่มข้อมูลที่มีจำนวนหลัก (Digit) ตามชื่อของฐาน
นั้นๆเช่น เลขฐานสอง ฐานแปด และฐานสิบ ประกอบด้วยข้อมูลตัวเลขจำนวนสองหลัก (0-1) แปดหลัก (0-7) และสิบหลัก (0-9) ตามลำดับ 
ในระบบคอมพิวเตอร์มีการใช้ระบบเลขฐาน 4 แบบ ประกอบด้วย
1).เลขฐานสอง (Binary Number)
2).เลขฐานแปด (Octal Number)
3).เลขฐานสิบ (Decimal Number)
4).เลขฐานสิบหก (Hexadecimal Number)

1).เลขฐานสอง
คือตัวเลขที่มีค่าไม่ซ้ำกันสองหลัก ( 0 และ 1) เป็นเลขฐานเดียวที่เข้ากันได้กับ Hardware ของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง เพราะการใช้เลขฐานอื่น จะสร้างความยุ่งยากให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างมาก เช่น เลขฐานสิบมีตัวเลขที่เป็นสถานะที่ต่างกันถึง 10 ตัว ในขณะที่ระบบไฟฟ้ามีเพียง 2 สถานะ ซึ่งในช่วงเวลาหนึ่งๆมีเพียงสถานะเดียวเท่านั้น แต่ละหลักของเลขฐานสอง เรียกว่า Binary Digit (BIT)

2).เลขฐานแปด
เลขฐานแปด มีความสัมพันธ์กับเลขฐานสอง คือ เลขฐานสองจำนวน 3 หลัก แทนด้วยเลข
ฐานแปด 1 หลัก ดังนั้นเราจึงสามารถเขียนเลขฐานสอง 6 บิท แทนด้วยเลขฐานแปด 2 บิท การใช้เลขฐานแปดแทนเลขฐานสองทำให้จำนวนบิทสั้นลง

3).เลขฐานสิบ
คือตัวเลขที่มีค่าไม่ซ้ำกันสิบหลัก (0,1,2,…,9) เป็นเลขฐานที่มนุษย์คุ้นเคยและใช้ในชีวิตประจำวันมากที่สุด ตัวเลขที่มีจำนวนมากกว่า 9 ให้ใช้ 10 ซึ่งเป็นการกลับไปใช้เลข 1 และ 0 อีก เพียงแต่ค่าของ 1 เปลี่ยนไปเป็น 10 เท่าของตัวมันเอง เช่น 333 (สามร้อยสามสิบสาม) แม้จะใช้ตัวเลข 3 ทั้งหมด แต่ตำแหน่งของตัวเลขย่อมมีความหมายตามตำแหน่งของแต่ละหลักนั้น กล่าวคือ หลักหน่วยน้อยกว่าหลักสิบ 10 เท่า หลักสิบน้อยกว่าหลักร้อย 10 เท่า ตามลำดับ

4).เลขฐานสิบหก
เลขฐานสิบหก มีความสัมพันธ์กับเลขฐานสอง คือ เลขฐานสองจำนวน 4 หลัก แทนด้วย
เลขฐานสิบหก 1 หลัก ดังนั้นเราจึงสามารถเขียนเลขฐานสอง 8 บิทแทนด้วยเลขฐานสิบหก 2 บิท การใช้เลขฐานสิบหกแทนเลขฐานสองทำให้จำนวนบิทสั้นลง
การเปลี่ยนฐานเลข (Base Number Conversion)
เนื่องจากตัวเลขในแต่ละฐานมี ค่าคงที่เฉพาะ ในแต่ละหลักของตัวเอง เช่นตัวเลข 100 มีค่าเท่ากับหนึ่งร้อยในระบบเลขฐานสิบ แต่ตัวเลข 100 ในระบบ
เลขฐานสอง (อ่านว่า หนึ่ง-ศูนย์-หนึ่ง) ซึ่งมีค่าเท่ากับ 4 เป็นต้น ดังนั้น จึงไม่สามารถนำค่าของเลขฐานใดๆ ไปคำนวณเปรียบเทียบ กับเลขฐานอื่นได้โดยตรง
เมื่อต้องการคำนวณหรือเปรียบเทียบตัวเลข (ประมวลผล) จำเป็นต้องเปลี่ยนฐานเลขเหล่านั้นให้เป็นฐานเดียวกันก่อน การเปลี่ยนฐานเลขสามารถกระทำได้
หลายวิธี ในหน่วยเรียนนี้จะใช้วิธีที่สะดวกที่สุดวิธีหนึ่ง ดังนี้
ก่อนเปลี่ยนฐานเลขใดๆ จำเป็นต้องทราบค่าคง ที่เฉพาะในแต่ละหลักของเลขฐานสอง


การแปลงค่าเลขฐาน 
การคำนวณ 
     
1. การแปลงค่าเลขฐานสิบให้เป็นเลขฐานสอง  ฐานแปด  และฐานสิบหก  สามารถคำนวณได้จาก การหารสั้นด้วยเลขฐานที่ต้องการแปลงค่า  แล้วนำผลลัพธ์และเศษที่ได้มาเรียงต่อกันจากล่างขึ้นบน

สี่เหลี่ยมมุมมน: การแปลงค่า  〖16〗_สิบ  ให้เป็นเลขฐานสอง  2)  16  2)  8  เศษ  0   2)  8  เศษ  0  2)  8  เศษ  0       1  เศษ  0  จะได้  〖10000〗_สอง                    
  
สี่เหลี่ยมมุมมน: การแปลงค่า  〖16〗_สิบ  ให้เป็นเลขฐานแปด  8)  16         2  เศษ  0  จะได้  〖20〗_แปด                                                                                          
                                                                                                                                                                         


สี่เหลี่ยมมุมมน: การแปลงค่า  〖1101〗_สอง  ให้เป็นเลขฐานสิบ  〖1101〗_สอง  =  1 × 2^3 + 1 ×  2^2 + 0 × 2^1 + 1 × 2^0     =  1 × 8 + 1 × 4 + 0 × 2 + 1 × 1     =  8 + 4 + 0 + 1     =  〖13〗_สิบ                             
        2. การแปลงเลขฐานสอง  ฐานแปด  และฐานสิบหกให้เป็นเลขฐานสิบ  สามารถคำนวณได้ จากการนำเลขฐานที่ต้องการแปลงในหลักนั้นมาคูณกับค่าประจำหลักของฐาน  แล้วนำแต่ละหลักมารวมกัน

สี่เหลี่ยมมุมมน: การแปลงค่า  〖4251〗_แปด  ให้เป็นเลขฐานสิบ  〖4251〗_แปด  =  4 × 8^3 + 2 ×  8^2 + 5 × 8^1 + 1 × 8^0     =  4 × 512 + 2 × 64 + 5 × 8 + 1 × 1     =  2048 + 128 + 40 + 1     =  〖2217〗_สิบ

สี่เหลี่ยมมุมมน: การแปลงค่า  〖A10〗_สิบหก  ให้เป็นเลขฐานสิบ  〖A10〗_สิบหก  =  A ×  〖16〗^2 + 1 × 〖16〗^1 + 0 × 〖16〗^0     =  10 × 256 + 1 × 16 + 0 × 1     =  2560 + 16 + 0     =  〖2576〗_สิบ               
        3. การแปลงค่าเลขฐานสองให้เป็นเลขฐานแปด  สามารถคำนวณได้จากการแบ่งกลุ่มเลขฐานสอง  กลุ่มละสามหลัก  จากด้านขวาไปด้านซ้ายแล้วแปลงเลขฐานสองแต่ละกลุ่มให้เป็นเลขฐานสิบ  จากนั้นจึงนำตัวเลข ที่ได้มาเรียงต่อกัน  ซึ่งการแปลงเลขฐานสองให้เป็นเลขฐานสิบนั้นสามารถคำนวณได้จากข้อ  2  หรือเทียบจาก ตารางเลขฐาน

สี่เหลี่ยมมุมมน: การแปลงค่า  〖10110111〗_สอง  ให้เป็นเลขฐานแปด  〖10110111〗_สอง =  101    110    111  (แบ่งกลุ่ม  3  หลัก)     =     5        6        7   (นำมาแปลงให้เป็นเลขฐานสิบ)     =  〖567〗_แปด                 (นำมาเรียงต่อกันเป็นเลขฐานแปด)               



การแปลงเลขฐานที่เป็นตัวเลขที่มีหลักเดียว
  สามารถนำมาเทียบกับตารางเลขฐานได้  โดยไม่ต้องคำนวณค่าใหม่
  เนื่องจากตารางเลขฐานเกิดจากการเรียงลำดับเลขของเลขฐานนั้น ๆ
ซึ่งจะมีผลลัพธ์เท่ากับการคำนวณ


      4. การแปลงค่าเลขฐานสองให้เป็นเลขฐานสิบหก  สามารถคำนวณได้จากการแบ่งกลุ่มเลขฐานสอง กลุ่มละสี่หลักจากด้านขวาไปด้านซ้าย  แล้วแปลงเลขฐานสองแต่ละกลุ่มให้เป็นเลขฐานสิบ  จากนั้นนำตัวเลขที่ได้มาเรียงต่อกัน
สี่เหลี่ยมมุมมน: การแปลงค่า  〖101110111〗_สอง  ให้เป็นเลขฐานสิบหก  〖101110111〗_สอง =  1    0111    0111  (แบ่งกลุ่ม  4  หลัก)     =  1       7         7      (นำมาแปลงให้เป็นเลขฐานสิบ)     =  〖177〗_สิบหก                 (นำมาเรียงต่อกันเป็นเลขฐานสิบหก)
        5. การแปลงค่าเลขฐานแปดให้เป็นเลขฐานสอง  สามารถคำนวณได้จากการแบ่งเลขฐานแปดทีละหลักแปลงเลขฐานแปดให้เป็นเลขฐานสองสามหลักด้วยการเปรียบเทียบจากตารางเลขฐาน  หากเลขฐานสองนั้น มีไม่ถึงสามหลัก  ให้เติม  0  ด้านหน้าของหลักนั้น  แล้วจึงนำค่าที่ได้มาเรียงต่อกัน

สี่เหลี่ยมมุมมน: การแปลงค่า  〖37〗_แปด  ให้เป็นเลขฐานสอง  〖37〗_แปด  =  3            7      (แบ่งกลุ่ม  1  หลัก)     =  011      111    (นำมาแปลงให้เป็นเลขฐานสองสามหลัก)     =  〖011111〗_สอง        หรือ     〖11111〗_สอง                 
      6. การแปลงค่าเลขฐานแปดให้เป็นเลขฐานสิบหก  สามารถคำนวณได้จากการบ่งเลขฐานแปดทีละหลัก แปลงเลขฐานแปดให้เป็นเลขฐานสองด้วยการเปรียบเทียบจากตารางเลขฐาน  แล้วนำเลขฐานสองที่ได้แปลงให้เป็นเลขฐานสิบหกอีกครั้งหนึ่ง
สี่เหลี่ยมมุมมน: การแปลงค่า  〖567〗_แปด  ให้เป็นเลขฐานสิบหก  〖567〗_แปด  =  5         6        7    (แบ่งกลุ่ม  1  หลัก)     =  101   110    111   (นำมาแปลงให้เป็นเลขฐานสองสามหลัก)     =  〖101110111〗_สอง          =  1     0111     0111  (แบ่งกลุ่ม  4  หลัก)     =  1         7          7     (นำมาแปลงให้เป็นเลขฐานสิบ)     =   〖177〗_สิบหก                 (นำมาเรียงต่อกันเป็นเลขฐานสิบหก)             
        
สี่เหลี่ยมมุมมน: การแปลงค่า  〖177〗_สิบหก  ให้เป็นเลขฐานสอง  〖177〗_สิบหก  =  1           7        7       =  0001   0111    0111    (นำมาแปลงให้เป็นเลขฐานสอง        สี่หลัก)     =  〖000101110111〗_สอง      หรือ     〖101110111〗_สอง

   7. การแปลงค่าเลขฐานสิบหกให้เป็นเลขฐานสอง  สามารถคำนวณได้จากการแบ่งเลขฐานสิบหก
ทีละหลัก  แปลงเลขฐานสิบหกให้เป็นเลขฐานสองสี่หลักด้วยการเปรียบเทียบจากตารางเลขฐาน  หากเลขฐานสอง นั้นมีไม่ถึงสี่หลัก  ให้เติม  0  ด้านหน้าของหลักนั้นแล้วจึงนำค่าที่ได้มาเรียงต่อกัน
สี่เหลี่ยมมุมมน: การแปลงค่า  〖177〗_สิบหก  ให้เป็นเลขฐานแปด  〖177〗_สิบหก  =  1           7        7       =  0001   0111    0111    (นำมาแปลงให้เป็นเลขฐานสอง        สี่หลัก)     =  〖000101110111〗_สอง      หรือ     〖101110111〗_สอง        =  101   110    111   (แบ่งกลุ่ม  3  หลัก)     =  5         6        7     (นำมาแปลงให้เป็นเลขฐานสิบ)      =  〖567〗_แปด                 (นำมาเรียงต่อกันเป็นเลขฐานแปด)                    
       8. การแปลงเลขฐานสิบหกให้เป็นเลขฐานแปด 
สามารถคำนวณได้จากการแปลงเลขฐานสิบหกให้เป็นเลขฐานสอง  แล้วแปลงจากเลขฐานสองให้เป็นเลขฐานแปดอีกครั้งหนึ่ง

สี่เหลี่ยมมุมมน: การแปลงค่า  〖177〗_สิบหก  ให้เป็นเลขฐานแปด  〖177〗_สิบหก  =  1           7        7       =  0001   0111    0111    (นำมาแปลงให้เป็นเลขฐานสอง        สี่หลัก)     =  〖000101110111〗_สอง      หรือ     〖101110111〗_สอง        =  101   110    111   (แบ่งกลุ่ม  3  หลัก)     =  5         6        7     (นำมาแปลงให้เป็นเลขฐานสิบ)      =  〖567〗_แปด                 (นำมาเรียงต่อกันเป็นเลขฐานแปด)
วิดิโอ การแปลงเลขฐานสิบเป็นฐานอื่นๆ


ตรรกศาสตร์เบื้องต้น

ความหมายของศัพท์ตรรกศาสตร์ 
คำว่า ตรรกศาสตร์ ได้มาจากศัพท์ภาษาสันสฤตสองศัพท์ คือ ตรฺรก และศาสตฺร ตรรก หมายถึง การตรึกตรอง ความคิด ความนึกคิด และคำว่า ศาสตฺร หมายถึง วิชา ตำรา รวมกันเข้าเป็นตรรกศาสตร์” หมายถึง วิชาว่าด้วยความนึกคิดอย่างเป็นระบบ ปราชญ์ทั่วไปจึงมีความเห็นร่วมกันว่า ตรรกศาสตร์ คือ วิชาว่าด้วย การใช้กฎเกณฑ์
การใช้เหตุผล
วิชาตรรกศาสตร์นั้นมีนักปราชญ์ทางตรรกศาสตร์ได้นิยามความหมายไว้มากมาย นักปราชญ์เหล่านั้น คือ 
1.พจนานุกรมศัพท์ปรัชญาอังกฤษ – ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน นิยามความหมายว่าตรรกศาสตร์ คือ ปรัชญาสาขาที่ว่าด้วยการวิเคราะห์และตัดสินความสมเหตุสมผลในการอ้างเหตุผล” 
2.กีรติ บุญเจือ นิยามความหมายว่า ตรรกวิทยา คือ วิชาที่ว่าด้วยกฎเกณฑ์การใช้เหตุผล
3.”Wilfrid Hodges” นิยามความหมายว่า ตรรกศาสตร์ คือ การศึกษาระบบข้อเท็จจริงให้ตรงกับความเชื่อ

ประพจน์ (Proposition)
     ประพจน์ คือ ประโยคที่เป็นจริงหรือเป็นเท็จเพียงอย่างเดียวเท่านั้น 

ประโยคเหล่านี้อาจจะอยู่ในรูปประโยคบอกเล่าหรือประโยคปฏิเสธก็ได้ 
     

ประโยคต่อไปนี้เป็นประพจน์ 
จังหวัดชลบุรีอยู่ทางภาคตะวันออกของไทย ( จริง ) 
5 × 2 = 2 + 5 ( เท็จ ) 

ตัวอย่างต่อไปนี้ไม่เป็นประพจน์ 
โธ่คุณ ( อุทาน ) 

กรุณาปิดประตูด้วยครับ ( ขอร้อง ) 

ท่านเรียนวิชาตรรกวิทยาเพื่ออะไร ( คำถาม ) 
      
ประโยคเปิด (Open sentence)
บทนิยาม ประโยคเปิดคือ ประโยคบอกเล่า ซึ่งประกอบด้วยตัวแปรหนึ่งหรือมากกว่าโดยไม่เป็นประพจน์ แต่จะเป็นประพจน์ได้เมื่อแทนตัวแปรด้วยสมาชิกเอกภพสัมพัทธ์ตามที่กำหนดให้ นั่นคือเมื่อแทนตัวแปรแล้วจะสามารถบอกค่าความจริง
ประโยคเปิด เช่น
1.เขาเป็นนักบาสเกตบอลทีมชาติไทย
2. x + 5 =15
3. y < - 6
ประโยคที่ไม่ใช่ประโยคเปิด เช่น
1.10 เป็นคำตอบของสมการ X-1=7

2.โลกหมุนรอบตัวเอง
3.จงหาค่า จากสมการ 2
x+1=8



สรุปความรู้

เลขที่คนเราใช้ในชีวิตประจำวันคือเลขฐาน 10 ประกอบด้วยตัวเลขจำนวน 10 ตัว คือ เลข 0 ถึงเลข 9 เหตุผลที่คนเราใช้เลขฐาน 10 อาจเป็นเพราะว่่ามนุษย์เรามีนิ้วมืออยู่ 10 นิ้ว จึงนำมาใช้เป็นเครื่องมือช่วยในนับเลขหรือการคำนวณ  แต่สำหรับการประมวลผลในคอมพิวเตอร์จะใช้ระบบเลขฐานสอง ที่ประกอบด้วยตัวเลข 2 ตัว คือ เลข 0 และเลข 1  เพราะภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยวงจรอิเลคทรอนิกส์ ที่มีหลักการทำงานแบบดิจิตอล และใช้ระดับแรงดนไฟฟ้า 2 ระดับ คือ สวิตซ์เปิด (on) กับสวิตซ์ปิด (off) โดยกำหนดให้สถานะของการ "เปิด" แทนด้วยเลข "0" และ"ปิด" แทนด้วยเลข "1" ซึ่งเลขฐานสองจำนวนหนึ่งหลัก เราเรียกว่า "บิต"
          นอกจากนี้คอมพิวเตอร์ยังมีการใช้งานตัวเลขฐานอื่น ๆ อีก คือ เลขฐานแปด ที่ประกอบด้วยตัวเลข 8 ตัว คือ 0 ถึง 7 และเลขฐานสิบหก ที่ประกอบด้วยตัวเลข 0 ถึง 9 และตัวอักษรอีก 6 ตัวคือ A, B, C, D, E และ F ซึ่งมีค่าเท่ากับเลข 10 ถึง 15 โดยสามารถเปรียบเทียบการใช้เลขฐานสิบกับเลขฐานต่าง ๆ ได้ตามตารางดังนี้
 
เลขฐานสิบ
เลขฐานสอง
เลขฐานแปด
เลขฐานสิบหก
0
0000
0
0
1
0001
1
1
2
0010
2
2
3
0011
3
3
4
0100
4
4
5
0101
5
5
6
0110
6
6
7
0111
7
7
8
1000
10
8
9
1001
11
9
10
1010
12
A
11
1011
13
B
12
1100
14
C
13
1101
15
D
14
1110
16
E
15
1111
17
F


แหล่งอ้างอิง
http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/bangkok/sukanda_p/number/intro.html
www.slideshare.net/siripaporn/
www.scribd.com/doc/

8 ความคิดเห็น:

  1. เนื้อหาเข้าใจง่าย ตรงกับที่เรียนค่ะ

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
  3. ตรรกศาสตร์คืออะไร?

    โดย ธนพร แซ่ตั้ง ม.3/7 เลขที่18

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. วิชาว่าด้วยความนึกคิดอย่างเป็นระบบ ปราชญ์ทั่วไปจึงมีความเห็นร่วมกันว่า ตรรกศาสตร์ จ้า

      ลบ
    2. ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ^O^

      ลบ
  4. การเรียนตรรกศาสตร์สามรรถเชื่อมโยงกับการเรียนในสาขาอะไร


    เมริยา เศิกศิริ ม.3/7 เลขที่ 11

    ตอบลบ